สายแลนเทพ มีผลต่อเสียง?

Lek Noi
1 min readSep 14, 2021

--

หลายคนอยากให้ผมอธิบาย ให้เข้าใจง่ายๆ ว่าอุปกรณ์ที่แพงเวอร์ กับอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน จะมีผลต่อเสียง หรือต่อคุณภาพเสียงหรือไม่ อย่างไร ในเมื่อจะให้อธิบายแบบง่ายๆ ดังนั้นในเนื้อหานี้ ผมจะใช้ศัพท์เทคนิคให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่จะพยายามใช้การเปรียบเทียบ ให้เห็นภาพแทนละกัน อันนี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะเรื่องเสียงนะครับ ส่วนเรื่องภาพมันจะเป็นคนละเทคโนโลยีกัน ไม่สามารถเอามาเทียบเคียงกันได้

เริ่มจาก เรามองภาพให้ตรงกันก่อนว่า ปัจจัยอะไร ทำให้คุณภาพเสียงเปลี่ยนได้บ้าง เสียงเริ่มจากอุปกรณ์จัดเก็บ ผ่านอุปกรณ์แปลงสัญญาณ อุปกรณ์ส่งสัญญาณ และออกสู่ลำโพง ผ่านอากาศ และเข้าสู่หูคนฟัง ดังนั้นเสียงจะดีหรือไม่ดี จะขึ้นกับ ปัจจัยสามอย่าง

  • อุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ทั้งที่ใช้จัดเก็บ ส่งต่อเช่นสายสัญญาณ อุปกรณ์อ่านค่า แปลผล และให้กำเนิดเสียง
  • ผู้ฟัง ซึ่งอ้างอิงจากประสบการณ์ ความสามารถในการฟังเสียง ความรู้เรื่องเสียง และอายุ
  • สภาพแวดล้อม เนื่องจากเสียงเดินทางผ่านอากาศ สภาพแวดล้อมในระหว่างเดินทาง ความชื้น อุณหภูมิ ตำแหน่ง ทิศทาง พนัง พื้น เพดาน สิ่งกีดขวาง สิ่งสะท้อน

เรื่องผู้ฟัง ก็เป็นปัจจัยหลัก คนที่ได้ฝึกฝนในการฟังมาอย่างดี จะสามารถแยกความแตกต่างของเสียงแม้เพียงเล็กน้อยได้ อายุของคนฟังก็เช่นกัน ยิ่งอายุเยอะความสามารถในการฟังจะยิ่งลดลง ดังนั้นการ blind test ที่ทำโดยคนทั่วไป ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในความต่างของเสียงเลย จะไม่สามารถแยกเสียงออกได้จริงตามทฤษฎี หากเป็นการแยกเสียงตามความรู้สึกส่วนตัว ไม่ใช่การพิสูจน์คุณภาพ แต่เป็นได้เพียงแค่การพิสูจน์ความชอบ หากจะ blind test ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกฟังมาแล้วอย่างถูกต้อง และต้องทำในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมเป็นอย่างดี เพื่อให้เหลือปัจจัยกระทบน้อยที่สุด ดังนี้แล้วจะได้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย

สภาพแวดล้อม มีผลต่อคุณภาพเสียงไม่แพ้กัน ลองนึกถึงระบบของโรงหนัง เช่น THX, Dolby ATMOS ระบบเหล่านี้ช่วยสร้างประสบการณ์การรับชม รับฟัง ที่ดีขึ้นใช่มั๊ย เพราะอะไร เพราะพวกนี้ระบบเสียง หรือเครื่องเสียงที่ดี เพราะว่าเขามีการออกแบบการวางอุปกรณ์อย่างถูกตำแหน่ง มีการจูนอุปกรณ์ให้มีความพอดีทั้งเครื่องเวลาและความดัง แต่ที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้คือระบบพวกนี้รวมถึงการออกแบบห้อง และอุปกรณ์ตบแต่งทุกอย่างในห้องด้วยครับ ห้องสำหรับโรงหนังแบบนี้จะต้องกันเสียงจากภายนอกเข้าไปกวนจึงต้องมีฉนวนกันเสียงอย่างดีที่ผนังทุกด้าน ภายในต้องมีการติดตั้งวัสดุ์ดูดซับเสียงเพื่อกันเสียงสะท้อน หรือเสียงก้อง รวมทั้งเก้าอี้และอุปกรณ์ตบแต่งทั้งหมดต้องไม่ก่อให้เกิดเสียงสะท้อนด้วยเช่นกัน โดยทั่วไปค่าสัญญาณรบกวน หรือ Noise ที่ยอมรับได้จะต้องน้อยกว่า -120db หรือในบางระบบจะต้องต่ำกว่านั้น โดยค่าพวกนี้จะต้องคำนึงถึงขนาดห้องด้วย เพราะ Noise จะเปลี่ยนไปจำนวนและตำแหน่งของผู้ชมเปลี่ยนไป

สภาพแวดล้อมอีกอย่างที่สำคัญคือ อุณหภูมิ และความชื้น โรงหนังที่ได้มาตรฐานต้องควบคุมสองสิ่งนี้ด้วย อากาศที่ร้อนและเย็นต่างกัน และความชื้นในห้องที่มีมากหรือน้อยไป ก็มีผลต่อเสียงเช่นเดียวกัน หรือแม้แต่หลอดไฟเอง ก็สร้างเสียรบกวนจำนวนมากได้เช่นกัน

แล้วสายสัญญาณมีผลหรือไม่ต่อสิ่งแวดล้อมในห้อง ? หลายคนบอกว่าแค่ใช้สายมาตรฐานก็พอ แต่คุณต้องดูด้วยว่ามาตรฐานของใคร เช่นบอกสาย USB v3.2 มาตรฐาน และมีผลเทสจาก certified USB หรือสายแลน CAT6a ที่ได้รับการรับรองจากเครื่อง OTDR Certification แค่นี้พอหรือไม่ ? ก็ต้องถามกลับไปว่า มาตรฐานที่ว่ามามันมีไว้เพื่ออะไร มาตรฐานทั้งสองตัว มีไว้เพื่อประเมินคุณภาพการรับส่งข้อมูลภายในสาย แต่เรากำลังคุยกันเรื่องสภาพแวดล้อมในห้องใช่หรือไม่ ? สายแลน Cat6a และสาย USB ถึงแม้จะมีมาตรฐานระบุความสามารถในการรับส่งข้อมูลได้เร็วและถูกต้อง แต่ในมาตรฐานได้บอกหรือไม่ว่าสายสองชนิดนั้นก่อให้เกิด noise และความร้อน แค่ไหนและ noise นั้นไปรบกวนระบบเสียง และสภาพแวดล้อมในระดับใด

ในการติดตั้งระบบเสียงมาตรฐานนั้น เขาจะมีระบุให้อุปกรณ์ทุกชิ้นต้องมีฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวน และต้องต่อสายดิน ไม่เว้นแม้แต่สายสัญญาณ สาย CAT6a ปกติเป็น UTP ไม่มีฉนวนไม่สามารถใช้ได้ต้องไปใช้สายแบบมีฉนวน หรือ CAT7 หรือสายแบบ STP และในทางปฏิบัติต้องเก็บสายให้เรียบร้อย ซ่อนไว้ใต้วัสดุที่ไม่สะท้อนเสียง หรือมีวัสดุกันเสียงสะท้อนหุ้มสายด้านนอกอีกชั้น

จากที่บอกไป ถ้าคุณลงทุนห้องเก็บเสียงระดับครึ่งล้าน แอร์ติดแบบ split system ควบคุมอุณหภูมิ และขจัดฝุ่น ให้คงที่ตลอดเวลา มีเครื่องควบคุมความชื้นให้คงที่ ลงทุนชุดเครื่องเสียงหลักล้าน วัดค่า noise ได้เงียบกริบ ต่ำกว่า -130db แล้วคุณจะปล่อยให้สายสัญญาณมาตรฐาน Cat6 แบบสำหรับใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไป ทำให้เกิด Noise คุณจะปล่อยให้ Network Switch แบบใช้งานกับคอมพิวเตอร์ทั่วไป ทำให้เกิด noise งั้นหรือ จิตนการนะครับว่าห้องเงียบกริ๊บ ไม่ได้ยินแม้ว่าข้างนอกจะมีรถชนกันอยู่ มีรถขายไอศครีมวิ่งผ่าน แต่ในห้องเปิด switch network ทิ้งไว้หนึ่งตัว หรือเสียบไฟ Ext HDD ทิ้งไว้ คิดว่าคุณจะได้ยินเสียงมันทำงานมั๊ยครับ

ถึงแม้จะเป็นเพลงเดียวกัน เปิดจากเครื่องเล่นเดียว ถ้ามีฝุ่น อุณหภูมิ ความชื้น เปลี่ยนในระดับหนึ่ง นักฟังเพลงอาชีพ หลายคนเขาฟังออกครับว่าเสียงมันเปลี่ยนไปยังไง เคยมีคนเล่าให้ฟังว่าเครื่องเสียงที่เปิดในอุณหภูมิห้องตอนเช้า กับตอนเย็น ทั้งที่ทุกอย่างเหมือนกันหมด สามารถทำให้ความถี่เสียงที่วัดได้ต่างกันถึง 2kHz ทำให้กลุ่มคนที่ต้องถ่ายทำดนตรีสดนอกสถานที่ เขาต้องว่าวิเคราะห์เรื่องพวกนี้ด้วยเพื่อให้ได้การบันทึกเสียงที่ดีที่สุด แต่ก็อย่างที่บอกครับ พวกนี้มีกับการใช้งานนอกอาคาร หรือในพื้นที่เปิดในส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยมีผลมากกับการใช้งานในห้องเสียงที่ติดตั้งมาดีแล้ว ยกเว้นแอร์เสีย หุหุ

ทั้งหมดในตอนนี้ จะขอเล่าถึง สองปัจจัยคือคน และสภาพแวดล้อม ที่ทำให้เสียงดีขึ้น หรือแย่ลง ได้ก่อน ส่วนปัจจัยที่สาม จะค่อนข้างซับซ้อนหน่อย คงต้องใช้เวลาเรียบเรียง

สรุป
สายแลนมีผลต่อเสียงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ฟังว่าฟังโดยใช้ความรู้จริง หรือแค่อารมณ์พาไป และสภาพแวดล้อมซึ่งมาตรฐานสายทั่วไปไม่มีกำหนดเสียงรบกวนต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งไม่สามารถนำไปใช้กับระบบเสียงแบบ THX หรือ Dolby ได้

--

--

Lek Noi

คนธรรมดา คนหนึ่งที่ชอบด้านไอที และรักในการขีดๆ เขียนๆ